Movie of the Day
Movies Genre
Movie Trailer
“เดย์” (เคน ธีรเดช ) ฝ่ายอาร์ตกองถ่ายโฆษณา ถูกทิ้งให้อยู่โยงเคลียร์สระกระโดดน้ำร้างแต่เพียงลำพังหลังเลิกกอง ด้วยความเหนื่อยล้าจากการทำงานหนักมาทั้งคืน เดย์เผลอหลับบนแพยาง โดยไม่ทันตระหนักว่าเพื่อนร่วมงานคนสุดท้ายที่เพิ่งกลับไป ได้เปิดระบบปล่อยน้ำในสระออกไปแล้ว และเมื่อเดย์รู้สึกตัวอีกที เขาพบว่าระดับน้ำได้ลดลงจนถึงระดับที่ไม่สามารถปีนขึ้นจากสระได้ เดย์พยายามตะโกนขอความช่วยเหลือ แต่ก็ไร้เสียงตอบรับใดๆ “ก้อย” (เกรซ รัชย์ณมนทร์ ) แฟนสาวของเดย์ ตั้งใจมาเซอร์ไพรส์เขาที่สระ ด้วยการโดดลงมาหาจากแท่นกระโดด โดยไม่ทันได้สังเกตระดับน้ำ ซึ่งเสียงตะโกนห้ามของเดย์ ทำให้ก้อยเสียจังหวะ พลาดตกลงไปในสระจนได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก ในขณะที่ทั้งคู่กำลังอับจนหนทาง และเฝ้าปลอบใจตัวเองว่า “คงไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่านี้อีกแล้ว” จระเข้ตัวเขื่อง ที่มาจากไหน ไม่มีใครรู้ กลับกำลังคืบคลานเข้ามาหาพวกเขาอย่างช้า ๆ นอกจากการเอาชีวิตรอด จากสระลึก 6 เมตร ที่ไม่มีน้ำ ไม่มีบันได และไม่มีทางออกแล้ว บทเริ่มต้นของ “มัจจุราชเงียบ” ที่แท้จริงก็กำลังจะเริ่มต้นขึ้น
นี่เป็นการกลับมาหลังจากหายไปนานของทั้งผู้กำกับอย่าง พิง ลำพระเพลิง หลังจากหายไปร่วม 4 ปีหลังจากหนังอย่าง ปอบหน้าปลวก (2557) และนักแสดงนำชายยอดนิยมอย่าง เคน ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์ ที่หายไปจากวงการหนังกว่า 9 ปีหลังจาก รถไฟฟ้า มาหานะเธอ (2552) และเป็นการมาร่วมมือกันครั้งแรกภายใต้ค่ายหนังกล้าทำอย่าง T Moment ซึ่งปีนี้มีหนังลงโรงหลายเรื่องเลยก่อนหน้านี้ก็เพิ่งปล่อย App War แอปชนแอป ที่โดนใจคอหนังไทยคุณภาพกันไปหลายคน มาเรื่องนี้ก็เป็นการยืนยันล่ะว่าค่ายทีโมเม้นท์ นี่เขากล้านำหนังไทยอย่างสร้างสรรค์จริง ๆ
หนังเล่าเรื่องได้กระชับแค่ 91 นาที ใส่เหตุการณ์เปลี่ยนแปลง และกระหน่ำซ้ำเติมความซวยให้ตัวละครอย่างไม่ยั้งมือ คือซวยจนเราสงสาร ทั้งที่เราไม่ได้อินกับอาชีพพระเอกหรือเอาใจช่วยคู่รักคู่นี้นักในตอนเริ่ม แต่พอหนังมันเล่นไปเรื่อย ๆ เราก็เกิดสงสารทั้งคู่จับใจเลย คนอะไรมันจะซวยได้เบอร์นี้ ซึ่งไอ้เหล่าสถานการณ์พาซวยทั้งหลายมันก็ผสมปนเปนะ ทั้งที่ดูคิดมาดีฉลาดและรู้สึกเป็นเรื่องช่วยไม่ได้จริง ๆ หรือเป็นเรื่องบังเอิญซวย จนถึงความซวยที่เราต้องอุทานเชี่ยไรมรึงเนี่ยออกมา ซึ่งบางคนอาจไม่ชอบอย่างแรง แต่มองในแง่ความบันเทิง มันได้ลุ้นและได้ฮาในความตลกร้ายของมันอย่างไม่น่าเชื่อนะ ดูให้บันเทิงนี่จะมีความสุขมาก และขอยืนยันว่าตอนท้ายนี่โคตรตลกร้าย สบถกันลั่นโรง เชี่ยยยยย 55555
จากการที่ดูต้องบอกว่านี่คือการแสดงที่น่าชื่นชมแบบทุ่มสุดตัวของเคนจริง ๆ คงมีพระเอกหน้าหล่อไม่กี่คนหรอกที่จะเล่นสตั้นท์ด้วยตัวเอง ทั้งล้มลุกคลุกคลานถูลู่ถูกังไปกับพื้นกระเบื้องแตก ๆของสระว่ายน้ำ แถมต้องโดนสลิงห้อยเหวี่ยงสะบัดแบบนี้ ทั้งฉากอารมณ์ที่ต้องถ่ายทอดความสิ้นหวัง โดยเฉพาะฉากอารมณ์กับเกรซนี่พลังดีมากทั้งเคนทั้งเกรซเลย เสียดายที่ฉากให้ปล่อยของมีไม่มาก และจะบอกว่าเคนต้องใช้ประสบการณ์การแสดงเพื่อแบกหนังทั้งเรื่องก็ไม่ผิดนัก เพราะทั้งเรื่องมีอยู่ไม่กี่ตัวละคร และก็เป็นการตัดสินใจถูกของค่ายหนังที่ได้เคนมาจริง ๆ
ในขณะที่จระเข้ซีจีอาจได้เปรียบในแง่การสื่อสารอารมณ์และฉากสตันท์ต่าง ๆ ที่ทำได้มากกว่า แต่มันทำให้เรารู้สึกเดาทางออกไปหมด เพราะมันเอาความเป็นคนไปใส่ในสัตว์ทั้งอารมณ์ความคิดหลักคิดเหตุผลแบบคนเลย เราเลยรู้ล่วงหน้าไปหมด ตรงนี้คิดว่าทีมหนังคงชั่งข้อดีข้อเสียจนออกมาทางนี้ล่ะ แต่ก็เสียดายนะที่พลังมันลดไปเยอะ อยากให้พี่พิงใช้ของจริงให้หมดซะเลย แล้วใช้ซีจีแค่ที่จำเป็นจริง ๆ ตามความตั้งใจเดิมพอ แต่แบบนั้นหนังอาจบันเทิงน้อยลงล่ะนะ
วันที่ออกฉาย: 27 กันยายน 2561 (ประเทศไทย)
ผู้กำกับ: พิง ลำพระเพลิง
บทภาพยนตร์: พิง ลำพระเพลิง
เพลงเด่น: รักกระโดดกำแพง
รางวัลที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง: รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ สาขาเทคนิคพิเศษการแต่งหน้ายอดเยี่ยม, เพิ่มเติม
เรื่องราวการไล่ล่าล้างแค้นแอ็คชั่นโหดมันส์ฮาเริ่มต้นขึ้น เมื่อสองเพื่อนซี้อย่าง “หรั่งเร็ว” (วิลลี่ แมคอินทอช) และ “เป้ง เป้าตุง” (เสนาหอย เกียรติศักดิ์ อุดมนาค) สองนักโทษข้อหาอุกฉกรรจ์คดีโจรกรรม เพชรเดือนเก้า เพชรที่มีมูลค่ามหาศาล ได้แหกคุกที่มีมาตรการป้องกันแน่นหนา เพื่อไปตามหาเพชรเดือนเก้าที่เกิดการพลัดหลงกับพวกเค้าระหว่างถูกตำรวจเข้าจับกุม และคิดจะล้างแค้นคนที่แอบฉกเพชรเดือนเก้าของพวกเค้าไปครอบครอง หลังจากที่ทั้งคู่แหกคุกออกมาได้ หรั่งและเป้งรีบตรงรี่กลับไปหาครอบครัวที่พวกเค้ารัก แต่หรั่งก็ต้องพบกับความจริงที่ทำให้เค้าแสนเจ็บปวดใจ เมื่อเค้าต้องสูญเสีย ”พิม” ซึ่งเป็นภรรยา (ต้นหอม) กับลูกชาย “น้องต้นไม้” (น้องแผ่นดิน ภูมิแผ่นดิน) ที่เค้ารักและคิดถึงมาตลอดระยะเวลาที่เค้าติดอยู่ในคุกให้กับชายคนใหม่อย่าง ”สุเชาว์” (ซัน ประชากร) ที่เข้ามาทำหน้าที่สามีและพ่อได้ดีกว่าเค้า ส่วนเป้งที่หวังจะกลับไปขอโทษพ่อ (ป๋อง กพล) ที่เค้าเลือกเดินทางผิด แต่พ่อกลับไม่ให้อภัย มิหนำซ้ำยังตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับเค้าไปตลอดชีวิต เมื่อทั้งสองคนไม่เหลือใครให้รักและต้องห่วงใยในชีวิตอีกต่อไป พวกเค้าจึงมุ่งมั่นออกตามหาเพชรและตามล่าคนที่ฉกเพชรเดือนเก้าของพวกเค้าไปอย่างไม่ลดละ ในขณะเดียวกัน “ผู้กองโตโน่” (บูม ภาคภูมิ) นายตำรวจหนุ่มมือปราบฝีมือดีกับ “จ่าจิว” (แจ๊ค เชิญยิ้ม) จ่าตำรวจสายฮา ก็ได้รับคำสั่งจากหน่วยเหนือให้ออกไล่ล่าติดตามจับกุมหรั่งและเป้งกลับมาเข้าคุกให้ได้เร็วที่สุด ส่วนหรั่งและเป้งก็ออกตามหา “จีน แผนเหนือ” (เจแปน ภาณุพรรณ) และ “อ้วก สิบแปดมงกุฎ” (ยัด เฟ็ดเฟ่) เพื่อนเก่าที่เคยร่วมงานโจรกรรมกันในอดีตให้มาร่วมทีมไล่ล่าล้างแค้นด้วยกัน และเป้าหมายการตามล่าหาเพชรเดือนเก้าของหรั่งกับเป้งก็คือกลุ่มบุคคลต้องสงสัยสามคนซึ่งประกอบด้วย ดาราสาวสวยลูกครึ่งไทยเกาหลีอารมณ์ดีอย่าง จียอน คนต่อมาคือดาราหนุ่มตลกยียวนกวนตีนอย่าง แจ๊ค แฟนฉัน และคนสุดท้ายคือพระเอกหนุ่มสุดหล่อขวัญใจสาวๆทั้งไทยและเทศอย่าง มาริโอ้ เมาเร่อ ทีมของหรั่งและเป้งวางแผนออกติดตามไล่ล่าเป้าหมายของพวกเค้าไปยังสถานที่ต่างๆอย่างเหนือชั้น และต้องพบเจอกับเหตุการณ์สุดป่วน (สถานการณ์ Candid) ที่ทำให้พวกเค้าต้องตกกระไดพลอยโจนเข้าไปร่วมอยู่ในเหตุการณ์สุดป่วนนั้นโดยไม่ได้ตั้งใจ แถมยังต้องรีบทำงานแข่งกับเวลาเพราะมีผู้กองแม๊กซ์และจ่าจิวคอยติดตามไล่ล่าจับกุมพวกเค้าอยู่ชนิดหายใจรดต้นคอ แต่ในที่สุดแผนการตามล่าหาเพชรและแก้แค้นของหรั่งกับเป้งก็ล้มเหลว ทั้งคู่จนมุมผู้กองแม๊กซ์กับจ่าจิว แต่หรั่งก็ยอมเสียสละตัวเองให้ผู้กองแม๊กซ์จับกุมทำให้เป้งหลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิด หรั่งถูกนำตัวกลับมาคุมขังไว้ในคุกอย่างแน่นหนา จนกระทั่งวันหนึ่งเป้งแอบลักลอบเข้ามาในคุกเพื่อจะพาหรั่งเพื่อนรักแหกคุกหนีออกไปด้วยกัน สุดท้ายพวกเค้าทั้งคู่จะแหกคุกออกมาได้อีกหรือไม่ และเพชรเดือนเก้ามูลค่ามหาศาลตกอยู่ในกำมือของใครกันแน่ต้องติดตามชมในภาพยนตร์เรื่อง สาระแน เลิฟยู้ววว
ไม่มีสมุยสำหรับเธอ คือหนังเป็นเอก รัตนเรือง ที่เข้าใจง่าย ดูสนุก และเนื้อหาหนังก็ยังสะท้อนสังคมไทยได้เป็นอย่างดี ทำให้เราได้มองเรื่องแย่ๆประหลาดๆในสังคมที่แม้แต่ละดอกจะ ‘หยิกเล็บก็เจ็บเนื้อ’ แต่กลับเป็นความจริงที่เราจะทนทุกข์กับมันได้อย่างรื่นรมย์ก่อนออกมาเผชิญความเจ็บปวดที่เราชาชินนอกโรงหลังหนังจบอีกครั้ง
วันที่ออกฉาย: 30 มกราคม 2561 (ประเทศไทย)
ผู้กำกับ: เป็นเอก รัตนเรือง
ประพันธ์ดนตรีโดย: โคอิชิ ชิมิสึ
รางวัลที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง: รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ สาขาดนตรีประกอบยอดเยี่ยม, เพิ่มเติม
ผู้ผลิต: เรย์มอนด์ พันธนวิรางกูร, Rasarin Tanalerttararom, Arunee Srisuk
แสงกระสือ เป็นภาพยนตร์ไทยแนวโรแมนติก-แฟนตาซี-ระทึกขวัญ กำกับโดย สิทธิศิริ มงคลศิริ เขียนบทโดย ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ว่าด้วยเรื่องราวของวัยรุ่นสาวคนหนึ่งที่ค้นพบว่าทุกคืนตัวเองจะต้องกลายร่างเป็น กระสือ ทำให้เธอต้องเอาตัวรอดจากกลุ่มนักล่ากระสือและหาทางรักษาการกลายร่างไปพร้อมๆกับการช่วยเหลือจากเพื่อนสนิทของเธอเอง
วันที่ออกฉาย: 14 มีนาคม 2562 (ประเทศไทย)
ผู้กำกับ: สิทธิศิริ มงคลศิริ
ประพันธ์ดนตรีโดย: ชาติชาย พงษ์ประภาพันธ์
ผู้ผลิต: Meo Boontamcharoen
บทภาพยนตร์: ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล
นำแสดง: เจมส์ ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ, เฌอปราง อารีย์กุล, สู่ขวัญ บูลกุล, โรจ ควันธรรม, เบสท์ ณัฐสิทธิ์ โกฏิมนัสวนิชย์, เบบี้มายด์ ศรุดา เกียรติวราวุธ, ปีเตอร์ นพชัย ชัยนาม, เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์
กำกับ: โอ๋ ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ
เมื่อความตายไม่ใช่จุดสิ้นสุด แต่เป็นจุดเริ่มต้นของคำว่า “HOMESTAY”
ภาพยนตร์แนวทริลเลอร์ แฟนตาซี จาก GDH ที่จะทำให้คุณค้นพบความหมายใหม่ของคำว่า “ร่างชั่วคราว“